10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ฤดูกรีนซีซั่นที่มีแต่ความสดชื่น
พาไปชมภาพบรรยากาศความชุ่มฉ่ำของสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนฮอตฮิตในประเทศไทย ยามเมื่อสายฝนมาเยือนสร้างความเขียวชอุ่มไปทั่วทุกภาคของประเทศ
หน้าฝนเป็นฤดูกรีนซีซั่นที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวแลดูสบายตาและชุ่มฉ่ำหัวใจ หลายคนเลือกที่จะออกไปโลดแล่นสัมผัสสายฝนโปรยปราย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ยังไม่เป็นอย่างใจหวัง วันนี้เราเลยจะชวนไปเที่ยวทิพย์ ผ่านภาพบรรยากาศของที่เที่ยวหน้าฝนยอดนิยมจากทั่วไทยกัน อาจจะทำให้คลายความคิดถึงกันไปได้บ้าง เริ่มที่…
1. บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่
หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนในอำเภอแม่แจ่ม ไฮไลต์ยามเมื่อสายฝนมาเยือนก็คือ ความเขียวชอุ่มของนาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตา ลดหลั่นกันไปตามระดับ โดยฤดูกาลท่องเที่ยวบ้านป่าบงเปียง ถ้าใครอยากเห็นเลเยอร์ของคันนาสีน้ำตาลตัดกับต้นกล้าสีเขียวแนะนำให้มาช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ส่วนถ้าอยากเห็นความเขียวขจีแบบจัดเต็มของนาขั้นบันไดก็ต้องมาช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน และช่วงปลายตุลาคมถึงพฤศจิกายนทุ่งนาจะกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม
2. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งนี้สามารถไปเยือนได้ทุกฤดูกาล เพราะมีความงดงามแตกต่างกันไป ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยเลือกไปเที่ยวดอยอินทนนท์ช่วงหน้าฝน เพราะจะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คน บรรยากาศเงียบสงบ ได้ดูวิวธรรมชาติเขียวขจีแบบสบายใจ
3. ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
ยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลมเป็นแนวยาว ที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ฟ้า” ซึ่งภาพความสวยงามของภูชี้ฟ้าในหน้าฝน คือทุ่งหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุม บางวันมีสายหมอกบางเบาคลอเคลียหลังฝนตก
4. อำเภอปัว จ.น่าน
อำเภอเล็ก ๆ ที่เป็นเมืองเก่าและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ที่ต้องการพักผ่อนกับท้องทุ่งนาและป่าเขาอย่างแท้จริง ถ้าใครไปเที่ยวในช่วงหน้าฝนก็จะได้เห็นภาพของทุ่งนาสีเขียวสดใส นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, วัดภูเก็ต, วังศิลาแลง และโรงเรียนชาวนา เป็นต้น
5. ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ
เทศกาลท่องเที่ยวที่หลายคนรอคอย สำหรับเทศกาลท่องเที่ยวชมดอกกระเจียวบาน เพื่อชื่นชมความงามของ “ทุ่งดอกกระเจียว” หรือทุ่งดอกบัวสวรรค์ ราชินีดอกไม้แห่งผืนป่าชัยภูมิ ที่จะผลิบานอวดโฉมในช่วงฤดูฝนท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนสิงหาคม ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
6. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย ที่มีอาณาเขตพื้นที่ที่กว้างขวางมาก ๆ ครอบคลุมถึง 11 อำเภอ ของ 4 จังหวัด คือ สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก โดยมีขุนเขาน้อยใหญ่และแม่น้ำลำธารสายต่าง ๆ เป็นเส้นกั้นพรมแดนธรรมชาติ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ป่าเขา และสัตว์น้อยใหญ่มากมาย
7. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดลมบนของเพชรบูรณ์ ความสวยงามของภูทับเบิกที่ใครมาเห็นก็ต้องหลงรัก เห็นจะอยู่ที่ภูมิประเทศ มองออกไปเบื้องหน้าเห็นทะเลภูเขา ป่าไม้เขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ และไร่กะหล่ำปลีกว้างสุดสายตา โดยรวมแล้วอากาศที่ภูทับเบิกเย็นสบายตลอดทั้งปี ตอนเช้า ๆ จะมองเห็นหมอกและกลุ่มเมฆสีขาว ตัดกับยอดภูสีเขียวสวยงามเกินบรรยาย อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวและประวัติศาสตร์สำคัญอย่าง “อุทยานภูหินร่องกล้า” อีกด้วย
8. ทุ่งดอกหงอนนาค อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ในฤดูฝนจะมีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลมาที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เพื่อเดินป่าไปชมความสวยงามของทุ่งดอกไม้ป่าบริเวณลานสนสามใบ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาวกว้างประมาณ 1,000 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร โดยดอกไม้ป่าที่เป็นนางเอกของที่นี่ก็คือ “ดอกหงอนนาค” มีลักษณะเป็นช่อดอกสีม่วง ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ใต้ต้นสนสามใบ ยิ่งในช่วงเช้าจะเห็นสายหมอกลอยบาง ๆ อยู่เหนือดอกไม้ เป็นอีกบรรยากาศที่สวยงาม
9. สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
อำเภอที่อยู่ติดชายแดนเมียนมา ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาและผืนป่า ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวแวะมาหลบมุมปล่อยวางจากวิถีชีวิตเคร่งเครียดหรือเร่งรีบ เพื่อมาพบกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้านสามวัฒนธรรม ทั้งไทย กะเหรี่ยง และมอญ อีกทั้งยังเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ละฤดูก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป อย่างหน้าฝนก็ชุ่มชื่นและชุ่มฉ่ำ ธรรมชาติรอบข้างเขียวชอุ่มจากหยดน้ำฝนที่พร่างพรมลงมา
10. เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย สวยโดดเด่นด้วยทัศนียภาพของภูเขาหินปูนที่สูงชันล้อมรอบด้วยผืนน้ำแสนกว้างใหญ่ ด้วยระดับความลึกของน้ำบวกกับสีของน้ำที่เข้มเหมือนสีมรกต มองเห็นปลาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เสน่ห์ของเขื่อนรัชชประภาอยู่ที่ธรรมชาติของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบายสดชื่น
นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนที่มักได้รับความนิยมเสนอมา ซึ่งจริง ๆ แล้วในเมืองไทยยังมีที่เที่ยวหน้าฝนสวย ๆ อีกมากมาย เอ…แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ มีที่เที่ยวหน้าฝนในดวงใจที่ไหนกันบ้าง แชร์บอกเรื่องราวต่าง ๆ กันได้นะ ^^