รักษา “ภูมิแพ้” ด้วย “คลื่นวิทยุ”
ภูมิแพ้ หรือภาวะโพรงจมูกอักเสบเรื้อรังเรียกได้ว่าเป็นโรคฮิตสำหรับคนเมืองโรคหนึ่งเลยทีเดียวอาจจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงนัก แต่ก็สามารถกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราโดยตรง ส่งผลให้เสียสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่สะดวกคล่องตัวเท่าใดนัก ทั้งยังไปรบกวนการนอนหลับพักผ่อน เช่น การนอนกรนที่เกิดจากการคัดจมูก
รู้จักโรค “ภูมิแพ้”
นายแพทย์ปวีณ เพชรรักษ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้าน โสต ศอ นาสิกวิทยา ศูนย์โสต-ศอ-นาสิก ชั้น 3 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ระบุว่า โรคภูมิแพ้ เกิดจากเยื่อบุจมูกไวผิดปกติเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น เช่น ฝุ่น ควัน ของที่มีกลิ่นฉุน และการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เป็นต้น อาการของโรคภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยสามารถสังเกตได้ เช่น คันจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา เสมหะไหลลงคอ จมูกไม่ได้กลิ่นหรือได้กลิ่นลดลง เจ็บคอ ระคายคอ ไอ เสียงแหบ หรืออาจมีอาการอื่นๆ เช่น คันตา คันคอ คันหู หรือคันที่เพดานปาก ปวดศีรษะ ปวดหู หูอื้อ เป็นต้น โดยทั่วไปผู้ป่วยมักบรรเทาอาการด้วยการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการใช้ยารับประทาน การใช้ยาพ่นจมูกหรือการใช้ยาเฉพาะที่ชนิดสเปรย์ และการใช้น้ำเกลือล้างจมูก
แต่บางครั้งถึงแม้ว่าจะหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีการต่างๆ ข้างต้นแล้ว อาการของโรคภูมิแพ้ก็ยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณารักษาด้วยการใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (RF) มาใช้ในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด
การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ
คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) เป็นการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด อาศัยคลื่นความถี่ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในระดับความถี่โดยคลื่นความถี่นี้จะเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการลดขนาดเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้โพรงจมูกโล่งขึ้น หายใจสะดวกขึ้น นอกจากนี้คลื่นความถี่สูงยังช่วยลดจำนวนต่อมสร้างน้ำมูก จึงช่วยรักษาอาการคัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และเสมหะลงคอด้วย
ข้อดีของการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ
- พักฟื้นน้อย นอนโรงพยาบาลเพียง 1 คืน
- ไม่มีบาดแผลภายนอก
- เห็นผลดีในการรักษา
- เสียเลือดน้อย
ทั้งนี้ควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยป้องกันโรคภูมิได้แล้ว ยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ได้อีกด้วย
ขอขอบคุณ
ภาพ :iStock