โรคแพ้อากาศ น้ำมูกไหล จาม เมื่ออากาศเปลี่ยน ดูแลตัวเองยังไงดี
เปลี่ยนฤดูทีไร อาการจาม คัดจมูก ด้วยโรคภูมิแพ้อากาศมาเยือนทุกที เจอแบบนี้ก็เหนื่อยทั้งกายและใจ มาหาวิธีรักษากันดีกว่า
บางทีการที่เราน้ำมูกไหล หรือคัดจมูกเมื่ออากาศเปลี่ยน อาจไม่ได้เป็นเพราะหวัดเสมอไป แต่เกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ ที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Allergic rhinitis ก็ได้ ลองมาทำความรู้จักโรคนี้กันเพิ่มอีกนิดไหม จะได้เช็กว่าที่เราป่วยใช่โรคแพ้อากาศหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นควรรักษายังไงดี
* โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ คืออะไร อากาศเปลี่ยนทีไรเป็นทุกที
โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) หรือโรคแพ้อากาศ คือโรคที่มีการอักเสบและบวมของเนื้อเยื่อในจมูก กรณีเป็นเรื้อรังมักเกิดจากโรคภูมิแพ้ แต่หากไม่ได้เป็นเรื้อรังอาจไม่ได้เกิดจากโรคภูมิแพ้ก็ได้ โดยโรคนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัย ดังนี้
– กรรมพันธุ์ ถ้าคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ โดยเฉพาะพ่อและแม่ ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นได้
– สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ขนของแมวและสุนัข ควันบุหรี่ ควันจากรถยนต์ เป็นต้น
– ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ, อากาศเปลี่ยน หรือมลภาวะต่าง ๆ
* โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ อาการเป็นยังไง
เมื่อมีการอักเสบของเนื้อเยื่อในจมูก อาจทำให้มีอาการ ดังนี้
* จาม
* คัดจมูก
* น้ำมูกไหล โดยเป็นน้ำมูกที่มีลักษณะใส หรือเหนียวใส
* คันจมูก
* มีเสมหะในลำคอ
* คันตา
* น้ำตาไหล
* ตาบวม
* เสียงเปลี่ยน
* จมูกไม่ได้กลิ่น
* หูอื้อ หรือมีเสียงดังในหู
ทั้งนี้ คณะทำงานขององค์การอนามัยโลกได้เสนอให้แบ่งชนิดของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เป็น 2 ชนิดตามความรุนแรงของโรค โดยแบ่งออกตามนี้
1. โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ชนิดมีอาการเป็นช่วง ๆ (Intermittent)
ผู้ป่วยจะมีอาการเฉพาะเวลาเช้า หรือกลางคืน ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และเป็นประมาณวันละ 1-2 ชั่วโมง ติดต่อกันน้อยกว่า 4 วันต่อสัปดาห์
2. โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ชนิดอาการเป็นคงที่ (Persistent)
ผู้ป่วยที่มีอาการตลอดเวลา มากกว่า 4 วันต่อสัปดาห์ และเป็นเกิน 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการที่ไม่ใช่อาการโดยตรงของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เช่น
– รู้สึกหอบเหนื่อย จากการหายใจไม่สะดวก
– ปวดศีรษะเรื้อรัง
– ไอเรื้อรัง
– กลิ่นปากแรง
– คอแห้ง เจ็บคอเรื้อรัง
– ท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย
– เพลียง่ายหรือหลับง่ายในเวลากลางวัน
– เยื่อบุริมฝีปากหรือมุมปากอักเสบเรื้อรัง
– การอักเสบของผิวหนังรอบดวงตา หนังตาคล้ำจากการขยี้ตาบ่อย ๆ
– มีอาการผิดปกติทางหู และระบบประสาทการทรงตัว
หรือหากเป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ตั้งแต่เด็ก ๆ จนต้องหายใจทางปากอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้รูปทรงใบหน้าเปลี่ยนไป เช่น ใบหน้าส่วนล่างยาวกว่าปกติ เพดานปากแคบและโค้งสูง เมื่อยิ้มจะมองเห็นเหงือกบนได้มาก หรืออาจมีความปกติของการสบฟันได้ในบางคน
* โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ กับภาวะแทรกซ้อนที่อาจมาด้วยกัน
ภาวะแทรกซ้อนของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่
– โรคไซนัสอักเสบ
– ทอนซิลอักเสบ
– ผนังคออักเสบเรื้อรัง
– หูชั้นกลางอักเสบ
– โรคหืด
– ริดสีดวงจมูก
– เยื่อบุจมูกอักเสบจากการใช้ยาหดหลอดเลือดนานเกินไป
– นอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
* โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ รักษาได้ไหม
แม้จะยังไม่มีวิธีรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ให้หายขาดได้ เพราะโรคนี้จะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เมื่อเจอสิ่งกระตุ้น แต่เราสามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ และบรรเทาอาการได้ไม่ยาก ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
ควรหลีกเลี่ยงหรือกำจัดสิ่งที่แพ้ เช่น หมั่นทำความสะอาดบ้านและบริเวณรอบ ๆ บ้านให้ปราศจากฝุ่น หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์หากมีอาการแพ้ขนสัตว์ หลีกเลี่ยงการมีตุ๊กตาขนปุย ๆ ในห้องนอน พยายามไม่เข้าใกล้ดอกไม้ทุกชนิด ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศเพื่อลดฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย หลีกเลี่ยงอากาศร้อนจัด เย็นจัด เป็นต้น
2. ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กระตุ้นภูมิคุ้มกัน จะช่วยให้อาการแพ้อากาศบรรเทาลงได้ และยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น ๆ อีกต่างหาก นอกจากนี้ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึกจนเป็นนิสัย เพราะการพักผ่อนที่ดีก็มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้มากเลยทีเดียว
3. การล้างจมูก เพื่อช่วยให้โพรงจมูกโล่งขึ้น
4. รักษาด้วยยา
ยาที่ใช้บรรเทาอาการโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ มีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ยาต้านการอักเสบ ที่ช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ยาต้านฤทธิ์สารก่ออาการอักเสบ และยาต้านฮิสตามีน ช่วยลดอาการจาม น้ำมูกไหล คันจมูก และคันตา จากอาการแพ้อากาศ โดยตัวยาที่นิยมใช้รักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เช่น
– ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines) หรือยาแก้แพ้ ที่จะช่วยลดอาการจาม น้ำมูกไหล คันตา
– ยาหดหลอดเลือด (Decongestant)
– ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ทั้งชนิดกิน (Oral steroids) และยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (Intranasal steroids)
– ยาต้านโคลิเนอร์จิก (Anticholinergic drug) เช่น Ipratropium bromide
– ยาต้านลิวโคไตรอีน (Anti-leukotrienes) ช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุจมูก
5. ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (Immunotherapy)
หากมีอาการมาก ไม่สามารถรักษาด้วยยา หรือมีปัญหาในการใช้ยารักษา หรือเป็นโรคภูมิแพ้หลายชนิดพร้อม ๆ กัน แพทย์อาจให้วัคซีนภูมิแพ้ทีละน้อยแล้วค่อย ๆ เพิ่มโดสเพื่อให้ร่างกายผู้ป่วยสร้างภูมิต้านทานต่อสิ่งที่แพ้ โดยอาจจะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 ปี และหากได้ผลดีอาจต้องฉีดต่อเนื่องไปอีก 3-5 ปี
6. การผ่าตัด
หากรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผนังกั้นช่องจมูกคด เยื่อบุจมูกบวมผิดปกติ ริดสีดวงจมูก ไซนัสอักเสบ และรักษาด้วยยาไม่หาย แพทย์อาจเลือกรักษาโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ด้วยการผ่าตัด
* โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ อาการต่างจากหวัดยังไง
โรคแพ้อากาศมักจะเป็น ๆ หาย ๆ โดยเฉพาะเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป และอาการส่วนใหญ่จะมีแค่น้ำมูกไหลแบบใส ๆ จาม และคัดจมูก ไม่มีไข้ ไม่มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว เหมือนโรคหวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
หากพบว่าเป็นโรคแพ้อากาศก็ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ตัวเองแพ้ให้ไกล และปรึกษาแพทย์ถึงวิธีรักษาโรคอย่างเหมาะสม รวมไปถึงการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้อาการจมูกอักเสบภูมิแพ้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา
* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล, ราชวิทยาลัย โสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย