6 ตำนานความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมือถือและคอมพิวเตอร์
วันนี้เรามีบทความดีๆ มาแนะนำกันกับ 6 ตำนานความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมือถือและคอมพิวเตอร์ และแน่นอนว่าต้องมีสักข้อที่ตรงกับคนอ่านแน่นอน มาลองดูกันครับว่าใน 6 ข้อมีความเชื่ออะไรบ้างที่ตรงกับคุณ?
ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาเร็วมากทำให้เกิดการปะทะกันของข้อมูลเก่ากับข้อมูลใหม่ จนผู้บริโภคอย่างเรามึนไปหมด ยิ่งคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอัปเดตข้อมูลข่าวสารก็ยิ่งมีโอกาสจะตกเทรนด์ได้ง่าย ๆ วันนี้เราเลยมีสุดยอดตำนานความเชื่อผิด ๆ ของคนอเมริกันเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาฝาก จะได้อัปเดตข้อมูลกันเสียหน่อย ไม่ให้กลายเป็นคนหลงยุคไปค่ะ ไม่ต้องเขินนะคะ หากอ่าน ๆ ไปแล้วพบว่าคุณเองก็เคยเชื่อแบบนี้เหมือนกัน เพราะเราเองยังแอบพยักหน้างึกงักตามไปด้วยตั้งหลายข้อ
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…กล้องสมาร์ทโฟนยิ่งพิกเซลมาก ๆ ยิ่งถ่ายรูปชัด
จากการสำรวจของ Highspeedinternet.com เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พบว่า 86% ของคนอเมริกันเชื่อแบบนี้จริง ๆ ซึ่งก็คงเหมือนคนอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่เวลาไปเลือกซื้อมือถือก็มักจะเลือกกล้องที่พิกเซลเยอะ ๆ แต่ความจริงแล้ว จำนวนพิกเซลอาจช่วยในเรื่องขนาดและความละเอียด แต่ไม่ได้การันตีว่าภาพที่ได้จะมีความคมชัดเสมอไป เพราะองค์ประกอบหลักที่ช่วยเรื่องความคมชัดคือตัวเซนเซอร์และตัวเลนส์ของกล้องต่างหาก
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…การชาร์จมือถือข้ามคืนจะทำให้แบตฯ เสื่อม
อันนี้ไม่ถึงขนาดเป็นความเชื่อที่ผิดเสียทีเดียว แต่มันคือข้อเท็จจริงเมื่อหลายสิบปีก่อนสมัยมือถือรุ่นแรก ๆ นู่น แต่ปัจจุบันสบายใจได้ค่ะ เพราะมือถือเดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปไกลแล้ว จะชาร์จทิ้งไว้นาน ๆ ก็ไม่ทำให้แบตฯ เสื่อมแต่อย่างใด
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…บริษัทมือถือจงใจทำให้เครื่องรุ่นเก่าทำงานช้าลง จะได้ขายเครื่องรุ่นใหม่
อันนี้จะโทษผู้บริโภคก็คงไม่ได้ เพราะหลายคนมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับโทรศัพท์เครื่องใหม่ ที่เพิ่งซื้อมาไม่นานก็เริ่มออกอาการรวนเสียแล้ว แต่ครั้นจะโทษให้เป็นความผิดของผู้ผลิตเต็ม ๆ ก็น่าจะไม่ถูกอีก เพราะเทคโนโลยีมือถือยิ่งล้ำสมัยเท่าไร ก็ยิ่งต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์บ่อยขึ้นเท่านั้น และการอัปเดตนี้เองที่น่าเป็นตัวทำให้เครื่องรุ่นเก่าทำงานช้าลง พออืดมาก ๆ เข้า ผู้ใช้งานก็ต้องตัดใจซื้อเครื่องมืออยู่ดี โดยที่บริษัทผู้ผลิตไม่ต้องทำอะไรเลย สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะเกิดจากความตั้งใจหรือเป็นแค่วงจรธรรมชาติของการเสื่อมสภาพ ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนค่ะ
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…เครื่องเอกซเรย์ในสนามบินจะลบข้อมูลบนมือถือและแล็ปท็อป
หากนี่ยังเป็นยุคที่เราใช้กล้องฟิล์มกันอยู่ อันนี้ถือเป็นข้อมูลที่ถูก เพราะเครื่องเอกซเรย์สามารถทำลายรูปถ่ายบนฟิล์มได้จริง แต่ข่าวดีคือ เครื่องเอกซเรย์ทำอะไรเราไม่ได้ในยุคปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะโทรศัพท์ กล้อง หรือเครื่องแล็ปท็อป ล้วนเป็นระบบดิจิทัลหมดแล้ว ซึ่งจะไม่มีทางถูกลบหรือทำลายด้วยเครื่องเอกซเรย์แน่นอนค่ะ
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…ต้องปิดคอมพ์ทุกคืน
หากเป็นสัก 20 ปีก่อน การปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หลังใช้งานทุกคืนอาจช่วยยืดอายุเครื่องได้เล็กน้อย (เท็จจริงแค่ไหนก็ยังเป็นที่กังขาของนักคอมพิวเตอร์หลายคน) แต่หากเป็นคอมพิวเตอร์สมัยนี้ คุณไม่จำเป็นต้องปิดเครื่องทุกคืน เพราะมันถูกพัฒนาให้มีระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถเปิดเครื่องทิ้งไว้ได้โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ เพียงแต่อาจต้อง reboot หรือ restart บ้างเป็นครั้งคราวค่ะ
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…เครื่อง Mac ไม่มีวันติดไวรัส
ข้อเท็จจริงคือ เครื่อง Mac ติดไวรัสได้ เพียงแต่ “ไม่บ่อย” เท่าเครื่อง PC เท่านั้นเอง ความเชื่อผิด ๆ นี้น่าจะมาจากยุคที่ Apple ยังมีคนใช้น้อย ทำให้โอกาสที่จะติดไวรัสก็น้อยตามไปด้วย ผลพลอยได้คือ เจ้าคนปล่อยไวรัสเลยมัวแต่หมกมุ่นกับป่วนคนใช้ PC จนไม่มีเวลามาวุ่นวายกับเครื่อง Mac แต่เดี๋ยวนี้มีคนใช้ Mac กันมาก โอกาสจะติดไวรัสก็สูงตามไปด้วย ถึงจะมี source code ที่ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า…ไฟล์ที่ถูกลบไปแล้วไม่สามารถกู้กลับมาได้
หลายคนเชื่อว่าเพียงแค่กด Delete ไฟล์ที่ไม่ต้องการ มันก็จะมลายหายวับในทันที กลายเป็นความลับดับมืดที่ไม่วันได้โผล่มากวนตากวนใจเราอีกตลอดไป แต่นี่คือความเชื่อที่ผิดค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือคลิปใด ๆ ล้วนมีซอฟต์แวร์ที่สามารถกู้กลับมาได้ทั้งนั้นแม้เราจะลบไปทิ้งไปแล้วก็ตาม ดังนั้นก่อนพิมพ์ หรือถ่ายรูป ถ่ายคลิปใด ๆ คิดให้ถ้วนถี่กันสักนิด เพราะดิจิทัลไฟล์เหล่านี้มันจะอยู่กับเราไปตราบนานเท่านานค่ะ
จบไปกับตำนานความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมือถือและคอมพิวเตอร์ หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ อย่างน้อยก็น่าจะทำให้คนที่เคยผวาลุกขึ้นมากลางดึกเพื่อดึงสายชาร์จออกจะได้นอนเต็มอิ่มกับเขาเสียที ไม่ต้องคอยกังวลว่าชาร์จแบตฯ ข้ามคืนแล้วจะทำให้แบตฯ เสื่อมอีกต่อไป