1 วัน ครึ่งล้านวิว! Klear-Tilly Birds ร่วมงานกันครั้งแรกในซิงเกิลพิเศษ “ขอบคุณที่เลิกกัน”

“ขอบคุณที่เลิกกัน” ซิงเกิลสุดพิเศษจาก รุ่นพี่เจ้าที่วงการเพลงเศร้า Klear และ รุ่นน้องไฟแรงเจ้าของบทเพลงความเจ็บปวดแห่งปี Tilly Birds กับคำบอกลาที่เศร้าแต่สวยงาม และอบอุ่น จากเรื่องราวความรักในมุมที่เป็น Toxic relationship  เมื่อคนสองคนตกลงกันว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ก็ควรเลิกกันดีไหม จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย การจบความสัมพันธ์ตอนนี้อาจจะดีกว่าต้องฝืนทนต่อไป หรือต้องเลิกกันตอนที่เกลียดกันแล้ว โดยล่าสุดเพลงนี้ยอดวิวผ่านหลัก 5 แสนครั้งแล้ว เพียงแค่ 1 วัน (นับยอดวิวถึงวันที่ 13 กรกฎาคม) 

ซึ่งเพลงนี้  บิลลี่-ณัฐดนัย ชูชาติ มือกีตาร์ Tilly Birds รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ด้านดนตรี ส่วนเนื้อเพลงนั้น แพท-รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย นักร้องนำวง Klear และ เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา นักร้องนำ Tilly Birds ทำหน้าที่เขียนเนื้อร่วมกัน และด้วยเคมีที่เข้ากันทำให้การเลือกใช้ถ้อยคำที่ใช้สื่อสารนั้นลงตัวมากๆ

โดย แพท พูดถึงการทำงานในเพลงนี้ว่า “พอรู้ว่าได้ทำเพลงกับน้องๆ วง Tilly Birds พวกเราก็ดีใจกันมาก เลยรีบตั้งชื่อกรุ๊ปทำงานว่า KlearyBirds ทันที(หัวเราะ) ในส่วนของการทำงานตอนแรกพวกเราก็มีความเกร็งนิดหน่อยแล้วก็กลัวน้องจะเกร็งไปกับพวกเราเหมือนกันแต่พอได้ร่วมงานกันจริงๆแล้วเราก็บาลานซ์กันได้อย่างดี ในด้านของตัวเนื้อเพลงทาง Klear และ Tilly Birds ก็ได้แบ่งกันทำคนละครึ่ง ในด้านของคอนเซ็ปต์ทุกคนได้คุยกันจนทุกอย่างไปได้สวย และถ้าพูดถึงชื่อเพลงพวกเราชอบอะไรที่ง่ายๆเลยออกมาเป็นชื่อเพลงว่า “ ขอบคุณที่เลิกกัน”  ด้านเรื่องราวของมิวสิควิดีโอนั้นเป็นการพูดถึงการแต่งงานของคู่รัก ที่งานมงคลก็สามารถเป็นพิธีเลิกกันได้ ทางเรามีความคิดว่าเพลงนี้อาจจะเป็นเครื่องมือในการช่วยตัดสินใจในความสัมพันธ์ของบางคู่ เหมือนที่เราคุยกันบ่อยๆ ในหลายๆ อัลบั้มว่าคนเรามักจะมีสิ่งหนึ่งที่ไม่กล้าทำคือการบอกเลิกก่อน พวกเราเห็นด้วยว่าหลายๆคนทนอยู่ใน toxic relationship เพลงนี้ได้นำเสนอในรูปแบบที่ฟังง่ายๆสบายๆชวนฝัน แต่ถ้าลองมองในมุมเนื้อเพลง ก็จะมีความหมายแฝงที่น่าสนใจ เลยอยากให้ทุกคนได้ลองฟังมันจริงๆ” 

ด้านรุ่นน้องอย่าง Tilly Birds ก็ได้เล่ามุมประทับใจ และ อุปสรรคในการทำงานว่า “จริงๆ แล้วพวกเราเคยดูคอนเสิร์ต และชื่นชอบพี่ๆ วง Klear อยู่แล้ว แถมค่อนข้างชื่นชมพี่แพทในฐานะ front woman มากๆ อีกด้วย งานนี้เลยเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้ร่วมงานกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอพี่แพทในรายการ band lab แล้วครั้งนึง ตอนนั้นพี่แพทมารับหน้าที่เป็นหนึ่งในเมนเทอร์ครับ เพลงนี้พวกเราอยากจะสื่อถึงคำว่าแฮปปี้ในมุมมองที่ต่างกันไป ในความสัมพันธ์บางคู่อาจจะมองว่าเราควรจะทนหรือฝืนต่อไปแต่ในอีกมุมมองหนึ่งการเลิกกันอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า จริงๆแล้วเพลงนี้ก็มีอุปสรรคอยู่หลายอย่างเหมือนกัน (หัวเราะ) เพราะเป็นช่วงโควิดจึงทำให้ทุกคนไม่สามารถที่จะเจอกันได้ ซึ่งความพิเศษของเพลงนี้คือปกติการร้องเพลงคู่ส่วนมากจะแยกกันอัด แต่เพลงนี้พี่แพท และเติร์ดได้เข้าไปในห้องอัดพร้อมกันเพราะไลน์ร้องมาคู่กัน ถึงจะมีมิกซ์ไม่ทันบ้างเพราะอุปสรรคต่างๆแต่สุดท้ายพวกเราก็ผ่านไปได้ด้วยดี”