5 วิธีบรรเทาอาการจมูกแห้ง เมื่ออยู่ห้องแอร์นาน อากาศหนาว ฝุ่นเยอะจัด

ใครมีอาการจมูกแห้งเนื่องจากสูดฝุ่นเข้าไปในปริมาณมาก หรือเจออากาศแห้ง ๆ ในห้องแอร์หรือหน้าหนาวแล้วมีอาการจมูกแห้ง หายใจไม่สะดวก ลองมาบรรเทาอาการตามวิธีเหล่านี้กัน

จมูกในยามปกติจะหายใจได้สะดวกดี ไม่รู้สึกว่าชื้นเกินไปหรือแห้งเกินไป แต่หลายครั้งที่เจออากาศแห้ง เจอฝุ่นหนัก ๆ เราจะเริ่มรู้สึกเหมือนจมูกแห้ง แสบ หายใจเริ่มไม่ค่อยจะสะดวกแล้ว และพอเป็นก็รู้สึกไม่สบายตัวเนอะ งั้นหากมีอาการจมูกแห้งขึ้นมาเมื่อไร มาลองบรรเทาอาการนี้กันเถอะ

จมูกแห้ง

1. พ่นจมูกด้วยน้ำเกลือ หรือยาพ่นจมูก

          การพ่นจมูกด้วยน้ำเกลือจะช่วยให้เยื่อบุจมูกชุ่มชื้นอยู่เสมอ ดังนั้นหากมีอาการจมูกแห้ง ลองพ่นจมูกด้วยน้ำเกลือดูสิ แต่หากใครมีอาการแสบจมูกด้วย อาจต้องเลือกใช้ยาพ่นจมูกเพื่อช่วยลดอาการแสบจมูกด้วยนะ

2. ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดจมูก

          ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ ที่มีไอน้ำอยู่จะช่วยเพิ่มความชื้นให้โพรงจมูกได้ โดยนำมาเช็ดรอบ ๆ จมูกเมื่อมีอาการ หรือจะใช้ทิชชูเปียกแทนผ้าชุบน้ำก็ได้ แต่ก็ควรเลือกใช้ทิชชูเปียกสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์

3. ทาปิโตรเลียมเจล

จมูกแห้ง

          ป้ายปิโตรเลียมเจลบาง ๆ แล้วทาบาง ๆ ในโพรงจมูก เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้จมูกหายแห้ง หายใจได้สะดวกขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ควรทาปิโตรเลียมเจลในปริมาณเยอะเกินไป และไม่ควรใช้วิธีนี้บ่อยจนเกินไป เพราะน้ำมันจากปิโตรเลียมเจลอาจไหลลงปอด เพิ่มความเสี่ยงให้ปอดได้ ดังนั้นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดอยู่แล้วควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าใช้วิธีนี้แก้จมูกแห้งได้ไหม

4. ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ

จมูกแห้ง

          นอกจากการเพิ่มความชื้นภายนอกแล้ว เราควรเติมความชื้นภายในร่างกายด้วย โดยดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ แต่หากวันไหนอยู่ในห้องแอร์ตลอดทั้งวัน หรืออากาศแห้งมาก ให้จิบน้ำเรื่อย ๆ เลยนะ

5. เพิ่มความชื้นในห้อง

          เราสามารถเพิ่มความชื้นในห้องได้ง่าย ๆ ด้วยการนำภาชนะใส่น้ำมาวางในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ หรืออาจจะซื้อเครื่องทำความชื้นอัตโนมัติมาใช้ก็ได้ 

          ทั้งนี้เราสามารถลดโอกาสเกิดอาการจมูกแห้งได้ ด้วยการเปิดเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่าอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้อากาศเย็นจนเกินไป หรือหากใช้พัดลมก็ไม่ควรเปิดแรงจนสุด และไม่ควรเปิดจ่อมาที่ตัวเอง แต่ควรให้พัดลมหมุนส่ายไปรอบ ๆ ห้อง นอกจากนี้ควรตั้งพัดลมให้อยู่ห่างในระยะที่พอเหมาะด้วยนะคะ
 

ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
healthline
medicalnewstoday

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า