7 อาหารควรเลี่ยงเมื่อขับรถทางไกล ไม่อยากขับไปง่วงไปต้องระวัง !
ขับรถทางไกลนาน ๆ หลายคนมักจะหาของกินเล่นมาช่วยแก้ง่วง แต่อาหารบางอย่างยิ่งกินยิ่งทำให้ง่วงและเพลียนะ ต้องระวังให้ดี
การขับรถทางไกลที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน และยิ่งเป็นทางตรงยาว ๆ นอกจากจะต้องเตรียมเพลงไปเปิดฟังระหว่างทางแล้ว หลายคนก็ติดนิสัยขับรถไปกินไปช่วยแก้ง่วงด้วย ทว่าอาหารแก้ง่วงตอนขับรถต้องเลือกดี ๆ ค่ะ เพราะมีอาหารบางชนิดที่ยิ่งกินยิ่งง่วง จนอาจเสี่ยงต่อการขับรถหลับในได้ มาลองดูกันว่ามีอาหารกินเล่นตอนขับรถแบบไหนที่ควรเลี่ยงให้ไกลบ้างอาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อขับรถทางไกล
1. อาหารประเภทแป้ง คาร์โบไฮเดรตสูง
อาหารประเภทแป้งขาว ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาว ข้าวเหนียว หรือของกินเล่นอย่างขนมปัง คุกกี้ เค้ก อาหารประเภทนี้เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วนที่ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและเกิดอาการง่วงซึม นอกจากนี้การที่น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นก็ยังทำให้ร่างกายต้องนำวิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินบี 3 มาช่วยสังเคราะห์กลูโคสเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงาน ส่งผลให้วิตามินในร่างกายลดลง และก่อให้เกิดอาการอ่อนล้า ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ฉะนั้นพยายามเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตขัดขาวดีกว่าถ้าต้องขับรถทางไกลยาว ๆ แล้วมากินคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสีพวกข้าวกล้อง โฮลเกรน โฮลวีต แทน
2. เครื่องดื่มรสหวาน และของหวานต่าง ๆ
แม้น้ำหวาน หรือของหวานจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น แต่ของกินเหล่านี้มีน้ำตาลในปริมาณสูงมากนะคะ และยังจัดเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตสูงที่กินเข้าไปแล้วชวนง่วง ดึงวิตามินแห่งความสดชื่น (วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินบี 3) ออกจากร่างกาย ดังนั้นพยายามดื่มน้ำเปล่าและเลี่ยงอาหารหวาน ๆ ไว้ก่อน
3. น้ำอัดลม โซดา
น้ำอัดลมที่หลายคนดื่มแล้วบอกว่าชื่นใจ แต่ความรู้สึกชื่นใจที่ว่าก็อาจแค่ชั่วประเดี๋ยวตอนที่ดื่มใหม่ ๆ พอดื่มไปสักพักจะรู้สึกง่วงซึม และยังอาจรู้สึกไม่สบายท้อง ไม่สบายตัวร่วมด้วยได้ เนื่องจากน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มผสมโซดาเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และยังอัดแก๊สที่อาจก่ออาการท้องอืด ท้องเฟ้อมาด้วย
4. เนื้อสัตว์ย่อยยาก
เนื้อสัตว์อย่างเนื้อวัว เนื้อหมูติดมัน เป็นอาหารย่อยยากที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยนานกว่าอาหารประเภทอื่น ทำให้สูญเสียพลังงานมากขึ้น และอาหารที่ย่อยยากยังเสี่ยงจะถูกดูดซึมในลำไส้เล็กได้ไม่หมด ตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ ก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร นำมาซึ่งอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ชวนให้รู้สึกเพลีย ๆ อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นพยายามอย่ากินอาหารย่อยยากเหล่านี้ก่อนหรือระหว่างขับรถทางไกล ไม่งั้นคงขับไปรู้สึกกระสับกระส่าย ไม่สบายตัวไปแน่ ๆ
5. ธัญพืชและผักที่มีแก๊สเยอะ
เช่น กะหล่ำปลีดิบ บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง หอมใหญ่ มันฝรั่ง ดอกกะหล่ำ ถั่วเปลือกแข็ง โดยเฉพาะถั่วผสมเกลือ อาหารเหล่านี้มีแก๊สเยอะ กินเข้าไปมาก ๆ ก็อาจเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และง่วงนอนได้
6. เครื่องดื่มชูกำลัง
เครื่องดื่มชูกำลังที่หลงคิดกันว่าจะช่วยให้รู้สึกกระปี้กระเปร่า ไม่ง่วง แท้จริงแล้วอาจส่งผลตรงกันข้ามก็ได้ เพราะเครื่องดื่มชูกำลังอาจกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวจนละเลยการพักผ่อน ไม่รู้สึกอยากพักรถระหว่างทาง ก่อให้เกิดอาการอ่อนล้าสะสม มีอาการมึนงง หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ และเสี่ยงความดันโลหิตสูง
7. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แน่นอนว่าถ้าต้องขับก็ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของมึนเมาทุกชนิด เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้สติสัมปะชัญญะลดลง การตัดสินใจช้าลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุในระหว่างขับรถได้
และถ้าไม่อยากง่วงงุน หรือรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างเดินทาง ก็พยายามเลือกกินอาหารกันหน่อย อย่างอาหารที่ช่วยแก้ง่วงตอนขับรถเหล่านี้ก็ได้
อาหารที่ควรกินระหว่างขับรถทางไกล
ผลไม้
เช่น ส้ม สับปะรด มะม่วงดิบ หรือฝรั่ง ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น และมีวิตามินซีที่ช่วยต้านความเหนื่อยล้า ลดความตึงเครียดระหว่างขับรถทางไกล หรือเลือกกินแอปเปิล กล้วย ที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ลดอาการอ่อนล้า ง่วงงุนระหว่างขับรถได้
น้ำเปล่า
น้ำเปล่าคือดีที่สุดไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน เพราะนอกจากน้ำจะให้ความรู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือดของร่างกาย ทำให้รู้สึกตื่นตัว ไม่อ่อนล้า
น้ำผลไม้
หากอยากได้น้ำหวานระหว่างขับรถแนะนำเป็นน้ำผลไม้สด ไม่เติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาล และหากเป็นน้ำผลไม้รสเปรี้ยวนิด ๆ ด้วยจะยิ่งช่วยให้รู้สึกสดชื่น ร่างกายตื่นตัวจากวิตามินต่าง ๆ ในน้ำผลไม้
หรือถ้าอยากลองหาของกินเล่นแก้ง่วงตอนขับรถอื่น ๆ ลองมาดูเพิ่มเติมก็ได้นะ
นอกจากนี้อย่าลืมแวะพักเป็นระยะ ออกมาเดินยืดเส้นยืดสาย สูดอากาศบริสุทธิ์เพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย หรือหากรถติดหนักจะลองยืดเหยียดคลายเมื่อยตามนี้ด้วยก็น่าจะช่วยให้หายง่วงงุนไปได้ไม่มากก็น้อย