“สไปร์ซซี่ ดิสก์” เปิดบ้านต้อนรับน้องใหม่ “SOBBOY” ส่งซิงเกิลแรก “ไม่จำเป็นเลย”
เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีสำหรับ “โบ๊ท คนาวิน” ซึ่งครั้งนี้เขากลับมาในฐานะศิลปินเดี่ยวในชื่อ “SOBBOY” (ซ็อบบอย) ภายใต้บ้านหลังใหม่ Spicy Disc (สไปร์ซซี่ ดิสก์) พร้อมเปิดตัวด้วยซิงเกิล “ไม่จำเป็นเลย” ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ในวันที่จบลงไปแล้ว และมักคิดถึงความสุขที่ผ่านมาวันดีดีที่มีร่วมกัน แต่ความสุขนั้นกลับแฝงไปด้วยปัญหาที่มีเข้ามาไม่รู้จบ จนเกิดเป็นแผลซ้ำๆ ไม่มีทางหาย เมื่อปล่อยทิ้งให้ความรู้สึกนั้นถูกกัดกร่อนต่อไปสุดท้ายปลายทางของเรื่องนี้ก็คงจบลงด้วยความเจ็บปวด หากเป็นอย่างนั้นฉันขอเป็นคนที่เดินออกมาเพื่อให้เราได้กลับไปรักษาตัวเพื่อวันข้างหน้าดีกว่า ซึ่งในพาร์ทของดนตรี โบ๊ท ที่นำเอาซาวน์ดนตรีอินดี้อัลเทอร์เนทีฟ ได้กลิ่นอายความเป็นดนตรีในยุค 2000 ที่พาให้ทุกคนดำดิ่งไปในห้วงของความเศร้า และยิ่งได้ฟังเพลงและชมมิวสิควิดีโอก็จะยิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกของเพลงนี้ได้บาดลึกเลยทีเดียว ซึ่งตอนนี้ก็ปล่อยออกมาให้ได้ชมและได้ฟังกันแล้วอยากให้ลองเข้าไปฟังเพลง “ไม่จำเป็นเลย” พร้อมชมภาพได้ทางYouTube : SPICYDISC
โดย โบ๊ท ได้เผยถึงความรู้สึกในการเข้ามาเป็นศิลปินในสไปร์ซซี่ ดิสก์ว่า “สวัสดีครับผม โบ๊ท คณาวิน หรือทุกคนสามารถจดจำผมได้ในชื่อของ SOBBOY (ซ็อบบอย) ศิลปินผู้หลงรักในการเล่าเรื่องของความเศร้า โดยชื่อ SOBBOY มีความหมายถึงการสะอึกสะอื้นซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ผมต้องการจะเล่าผ่านดนตรีของผมที่เบสออนความเศร้าหลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดเพียงแค่คู่รักชายหญิงอาจจะเป็นความรักแบบมิตรภาพครอบครัวก็ได้ และอีกหนึ่งความตั้งใจคืออยากให้เพลงของ SOBBOY เป็นเหมือนเพื่อนของทุกคนในวันที่รู้สึกเศร้าก็ฟังเพลงให้ได้คลายเศร้าลงไปได้บ้างครับ
ส่วนทำไมผมถึงได้มาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน สไปร์ซซี่ ดิสก์ จุดเริ่มต้นนั้นมาจากเพื่อนของผมเป็นทีมงานของทางค่าย เขาเห็นว่าเราก็ทำเพลงเก็บไว้อยู่แต่ยังไม่ได้ถูกนำมาปล่อยเสียทีจึงได้เอ่ยชวนให้เข้ามาพูดคุยกับทางค่ายครับ พอได้เข้ามาคุยกันก็รู้สึกว่าอะไรหลายๆ อย่างของผมและค่ายมันถูกจริตกันก็เลยตัดสินใจเข้าเป็นศิลปินในค่ายและได้ปล่อยเพลงแรกออกมาทักทายทุกคนกับ “ไม่จำเป็นเลย” ที่เล่าถึงการจบความสัมพันธ์ที่เรารู้อยู่แล้วว่าตอนจบจะเป็นเช่นไรไม่ว่าทางไหนก็เจ็บอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นเราขอเป็นคนจบเรื่องนี้เองดีกว่านั่นคือเนื้อหาของเพลงคร่าวๆ ในส่วนของมิวสิควิดีโอผมเลือกเล่าเรื่องราวผ่านฟิล์มที่ให้สีและฟิลลิ่งหม่นเศร้าแต่ไม่ได้ดาร์คจนเกินไปมาเป็นการขยายความของเพลงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรผมของ ฝากให้ทุกคนเข้าไปฟังเพลงและชมมิวสิควิดีโอกันเยอะๆ นะครับ”