แจกพิกัด 18 สถานที่ดูดาวแห่งใหม่จากทั่วไทย ไปชมความงามยามค่ำคืนกัน

แนะนำสถานที่ดูดาวแห่งใหม่ หลัง สดร. จับมือ ททท. ดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ พร้อมประกาศขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ประจำปี 2566

 ยามเมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดมิดค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เหลือแค่ดวงดาราเข้าทำหน้าที่ยามค่ำคืนส่องแสงพร่างพราวอยู่เต็มท้องฟ้า เกิดเป็นความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้หลายคนออกไปเป็นนักล่าดวงดาว ตามหาสถานที่ดูดาวท่ามกลางธรรมชาติ สามารถมองเห็นในมุมต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน วันนี้เราเลยหยิบเอาสถานที่ดูดาวแห่งใหม่ ๆ มาแนะนำกัน หลังจากที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. เปิดตัวโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND Season 2 ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ต่อเนื่อง เผยลิสต์ 18 พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ทั่วประเทศ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

สถานที่ดูดาวจากทั่วไทย

         ผลการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ปี 2566 ภายใต้โครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND Season 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 18 แห่ง ดังนี้

อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) จำนวน 5 แห่ง ได้แก่

1. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ (ลานชมดาว) จังหวัดกำแพงเพชร

          ลานกางเต็นท์ขุนน้ำเย็น อยู่ห่างไกลจากชุมชน เป็นพื้นที่ควบคุมการใช้แสงสว่าง พื้นที่โล่งกว้างทางทิศเหนือจึงสามารถสังเกตดาวเหนือได้ชัดเจน เหมาะสำหรับการดูดาวเป็นกลุ่มขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ทำให้สามารถสังเกตกลุ่มดาวรวมถึงวัตถุในห้วงอวกาศลึกที่มีความสว่างน้อย ได้แก่ กาแล็กซี กระจุกดาว เนบิวลา ได้ด้วยตาเปล่า และมีการจัดกิจกรรมตามปรากฏการณ์ดาราศาสตร์หลากหลายรูปแบบอีกด้วย มีแพ็กเกจดูดาวพร้อมถ่ายภาพทางช้างเผือกที่จุดชมวิวกิ่วกระทิงในช่วงรุ่งเช้า และจุดชมวิวโมโกจูน้อยช่วงหัวค่ำ นอกจากนี้ยังมีบริการพาไปลานชมดาวที่สามารถดูดาวได้ 360 องศาอีกด้วย

ภาพจาก : narit.or.th

2. อุทยานแห่งชาติตาพระยา (ลานกลางเต็นท์กลางดง) จังหวัดสระแก้ว

         อุทยานแห่งชาติที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกทางธรรมชาติกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ จุดชมดาวของอุทยานตั้งอยู่ในหุบเขา เป็นที่โล่ง เรียกว่า “กลางดง” มีผืนป่าอยู่รอบด้าน มีการควบคุมแสงสว่าง เหมาะสำหรับการชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก การดูดาวตาเปล่า และถ่ายภาพทางช้างเผือก ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญซึ่งมีธรรมชาติที่ยังสวยงามให้ได้ชม และพบเห็นสัตว์ป่าได้ง่ายบริเวณทางเข้ากลางดง สามารถมากางเต็นท์พักแรมได้ตลอดทั้งปี

ภาพจาก : narit.or.th

3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

        อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก มีจุดชมทิวทัศน์ น้ำตกขนาดใหญ่ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารหลายสาย มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีทัศนียภาพสวยงาม มีลานสนามหญ้าที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างหลายแห่ง สามารถสังเกตเห็นท้องฟ้าได้รอบทิศทาง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ป่าผืนใหญ่ห่างไกลจากแสงสว่างรบกวนในเวลากลางคืน สามารถสังเกตเห็นดวงดาวและทางช้างเผือกพาดผ่านได้ทั่วท้องฟ้า

ภาพจาก : narit.or.th

4. อุทยานแห่งชาติศรีน่าน (ดอยเสมอดาว) จังหวัดน่าน

        สถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติโดดเด่นและได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด จุดชมดาวจะอยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน (ดอยผาชู้) บริเวณดอยเสมอดาว และผาหัวสิงห์ จุดนี้มีทัศนวิสัยที่ดี เป็นพื้นที่ควบคุมการใช้แสงสว่างและเปิดโล่งหลายบริเวณ จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของท้องฟ้า สังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์  และถ่ายภาพทางช้างเผือกที่ทอดยาวผ่านแหล่งท่องเที่ยวของอุทยาน กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์เน้นค่ายดูดาวตอนกลางคืน และสถานที่ถ่ายภาพทางดาราศาสตร์

ภาพจาก : narit.or.th

5. วนอุทยานน้ำตกผาหลวง จังหวัดอุบลราชธานี

         สถานที่ที่จัดกิจกรรมดูดาวและถ่ายภาพทางดาราศาสตร์เหมาะสมหลายแห่ง บริเวณลานหินกางเต็นท์ เนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งกว้าง มีต้นไม้เตี้ยแคระแกร็นไม่บดบังทัศนียภาพ สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั่วบริเวณ มีวิวทิวทัศน์หลากหลายรูปแบบ ห่างไกลจากแหล่งชุมชน มีแสงสว่างรบกวนเล็กน้อยจากถนน จึงมีความมืดในระดับที่เหมาะแก่การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ เช่น ทางช้างเผือกและวัตถุในห้วงอวกาศลึก เป็นต้น

ภาพจาก : narit.or.th

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล (Dark Sky Properties)
จำนวน 11 แห่ง ได้แก่

1. มีลา การ์เดน รีทรีท คอทเทจรีสอร์ท จังหวัดสระบุรี

         พื้นที่โล่งกว้างตั้งอยู่บนภูเขา มีแสงรบกวนจากตัวเมืองน้อยมาก ท้องฟ้ามืดทำให้เห็นดวงดาวชัดเจนแม้มองด้วยตาเปล่า มีการควบคุมแสงไฟส่องสว่างให้เหมาะสมต่อการสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าในเวลากลางคืน ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติเชิงนิเวศ หลบหนีความวุ่นวายจากสังคมเมือง โอบล้อมด้วยขุนเขาระหว่างอำเภอปากช่อง และอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ตอบสนองการดำเนินชีวิตที่ทันสมัย แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ภาพจาก : narit.or.th

2. คีรีมาลา อีโค่ แคมป์ จังหวัดราชบุรี

         สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติใจกลางป่าเขาของจังหวัดราชบุรี พื้นที่โล่งกว้างรอบทิศทาง 360 องศา มีการควบคุมแสงสว่างในพื้นที่ให้เหมาะสมกับการดูดาวเวลากลางคืน มองเห็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้าอย่างชัดเจน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับการดูดาวด้วยตาเปล่า รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ ได้แก่ ชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก ค่ายดูดาว Camping และถ่ายภาพทางดาราศาสตร์

ภาพจาก : narit.or.th

3. ฟาร์มแสงสุข จังหวัดระยอง

         จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทั้งเขางวงช้าง เขาแหลม และเขาอื่น ๆ อีกมากมาย มีพื้นที่ดูดาวล้อมรอบไปด้วยสวนป่าและสวนผลไม้ จึงเหมาะสำหรับการดูดาวเป็นครอบครัวหรือกลุ่มขนาดเล็ก ทั้งยังเป็นพื้นที่ควบคุมการใช้แสงสว่างและห่างไกลจากใจกลางเมืองพอสมควร จึงได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางแสงเพียงเล็กน้อย ทำให้สามารถสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

ภาพจาก : narit.or.th

4. ไร่เขาน้อยสุวณา จังหวัดนครราชสีมา

         พื้นที่พักอาศัยของ คุณภูมิภาค เส็งสาย นักดูดาวสมัครเล่นและคนไทยคนแรกที่ถ่ายภาพวัตถุท้องฟ้าเมซิเยร์ครบทั้ง 110 รายการ เมื่อปี 2010 และจัดตั้งเป็น “ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติและดวงดาว” ที่มีความพร้อมทางด้านบุคลากรและอุปกรณ์ดูดาวระดับเดียวกับหอดูดาวภูมิภาค รวมทั้งอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับผู้สนใจเริ่มต้น ที่นี่เป็นพื้นที่ปิดส่วนบุคคล จึงสามารถควบคุมแสงสว่างรบกวนได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมวิทยากรที่เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการดูดาวเบื้องต้น การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์มุมกว้าง เป็นต้น

ภาพจาก : narit.or.th

5. ต้นข้าวหอมบ้านอ้อมดอย จังหวัดเชียงใหม่

         พื้นที่นี้ตั้งอยู่ห่างจากดอยหลวงเชียงดาวเพียง 3 กิโลเมตร มีวิวมุมกว้างแบบ 360 องศา สามารถดื่มด่ำกับวิวดวงอาทิตย์ตกดินในเวลากลางวัน และเป็นฉากหลังสำหรับทางช้างเผือกที่พาดผ่านในเวลากลางคืน มีระเบียงดาดฟ้าลานดูดาวขนาดใหญ่ ควบคุมการใช้ไฟประดิษฐ์ตามมาตรฐานของ IDA (International Darksky Association) ทำให้มองเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า ช่วงที่ดีที่สุดในการดูดาวคือ เดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถเห็นทางช้างเผือกได้ตั้งแต่หัวค่ำ ใจกลางทางช้างเผือกจะอยู่ที่ขอบฟ้าด้านตะวันตกเฉียงใต้ ข้างดอยหลวงเชียงดาวพอดี

ภาพจาก : narit.or.th

6. วิลลา เดอ วิว บูทีค รีสอร์ท เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

         นักท่องเที่ยวที่มาเช็กอิน ณ วิลลา เดอ วิว บูทีค รีสอร์ท จะได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่นี่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของพื้นที่สงวนชีวมณฑล “ดอยเชียงดาว” ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพที่โดดเด่น มีที่นั่งสังเกตการณ์ท้องฟ้ายามค่ำคืน หรือเป็นจุดถ่ายรูปนั่งมองทางช้างเผือกคู่ดอยหลวงเชียงดาวได้ มีการออกแบบกิจกรรมตามปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี พร้อมให้ความรู้เกี่ยวปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้น เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดเล็ก ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการให้บริการคือ ช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อน

ภาพจาก : narit.or.th

7. เชียงดาวฟาร์มสเตย์ จังหวัดเชียงใหม่

         สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในอำเภอเชียงดาว มีพื้นที่ดูดาวขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวดอยหลวงเป็นฉากหลังได้อย่างชัดเจน สามารถถ่ายภาพคู่ต้นไม้ใหญ่และดาวบนท้องฟ้า ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของสถานที่ ทั้งยังเป็นพื้นที่ควบคุมการใช้แสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการดูดาวด้วยตาเปล่าและถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ รองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้งแบบครอบครัว กลุ่มขนาดเล็ก หรืองานมหกรรมดูดาวขนาดใหญ่

ภาพจาก : narit.or.th

8. บ้านสวน ป่าโป่งดอย จังหวัดเชียงใหม่

         พื้นที่ดูดาวที่ล้อมรอบไปด้วยสวนลำไยและต้นไม้นานาชนิด เหมาะสำหรับการดูดาว ทั้งยังเป็นพื้นที่ควบคุมการใช้แสงสว่างและห่างไกลจากใจกลางเมืองพอสมควร จึงได้รับผลกระทบจากมลภาวะทางแสงเพียงเล็กน้อย ทำให้สามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัดเจนและสังเกตการณ์กลุ่มดาวและวัตถุในห้วงอวกาศลึก (Deep Sky Object) เช่น กาแล็กซี เนบิวลา กระจุกดาว ได้อย่างชัดเจน วิวที่พักสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้เต็มตา

ภาพจาก : narit.or.th

9. เดอะ ทีค รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่

         สถานที่ที่มีพื้นที่ดูดาวกว้างกว่า 10 ไร่ มีลานจัดกิจกรรมดูดาวกว้างขวางปราศจากแสงรบกวน เงียบสงบ  มีวิวทะเลสาบและดอยหลวงเชียงดาว สามารถดูพระอาทิตย์ตกตามด้วยการสังเกตท้องฟ้าในยามค่ำคืนได้ และในคืนเดือนมืดสามารถเห็นทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า มีจุดถ่ายรูปหลายจุด และ Roof Top 2 จุด ที่มองเห็นดาวได้แบบ 360 องศา เหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากทางไปถ้ำเชียงดาว ใกล้ดอยหลวงเชียงดาว

ภาพจาก : narit.or.th

10. พูโตะ จังหวัดเชียงใหม่

         บ้านพักส่วนตัวที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเนินเขาบ้านยางปู่โต๊ะ อำเภอเชียงดาว มีลานดูดาวขนาดใหญ่ สูงจากพื้นดิน 5 เมตร ทำให้มองเห็นวิวได้ 360 องศา พื้นที่โดยรอบเป็นป่าและสวนลำไยกว่า 95%  บ้านพูโตะควบคุมการใช้ไฟประดิษฐ์ตามมาตรฐานของ IDA (international dark sky association) เพื่อการสังเกตการณ์ท้องฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ภายในตัวบ้านออกแบบให้มีหน้าต่างกระจกที่สามารถเฝ้ามองดวงดาวและปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ได้จากเตียงนอน สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้มาเยือน

ภาพจาก : narit.or.th

11. อ่าวโต๊ะหลี จังหวัดพังงา

         จุดชมวิวอันซีนของพังงา อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากจุดชมวิวเสม็ดนางชี จึงมองเห็นทั้งวิวอ่าวโต๊ะหลีและวิวเสม็ดนางชีได้อย่างชัดเจนและกว้างกว่า 180 องศา ในตอนเช้าช่วงฤดูร้อนยังสามารถชมวิวดวงอาทิตย์ขึ้นจากหิน 3 ก้อนที่เรียงตัวสลับกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ มีแลนด์มาร์กสำหรับถ่ายรูปคู่วัตถุท้องฟ้าหลายที่ หรือภาพทางดาราศาสตร์คู่วิวอ่าวโต๊ะหลีและเสม็ดนางชี เหมาะสำหรับกลุ่มนักดาราศาสตร์สมัครเล่นหรือนักท่องเที่ยวที่สนใจ

ภาพจาก : narit.or.th

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง (Dark Sky Suburbs)
จำนวน 2 แห่ง ได้แก่

1. สวนสัตว์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

          สวนสัตว์แห่งนี้มีพื้นที่โล่งกว้างที่มีท้องฟ้ามืดสนิท สามารถสังเกตเห็นดาวเหนือ กลุ่มดาว ดาวเคราะห์ การชมวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ การถ่ายภาพทางช้างเผือก รองรับการจัดกิจกรรมดาราศาสตร์หลากหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมการเรียนรู้ค่ายดาราศาสตร์  โครงการกลางคืนดูดาว ตื่นเช้าส่องนก โครงการแคมปิ้ง สำหรับนักเรียน เยาวชน และประชาชนที่สนใจ สวนสัตว์ขอนแก่นอยู่ไม่ไกลห่างจากเมืองขอนแก่นเพียง 1 ชั่วโมง

ภาพจาก : narit.or.th

2. ซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

          สนามกอล์ฟที่ออกแบบโดยสถาปนิกนักกอล์ฟระดับโลก ผสมผสานกับศิลปะล้านนาอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ มีภูเขา ทะเลสาบ สระน้ำล้อมรอบ อีกทั้งยังมีพื้นที่ดูดาวบริเวณสนามกอล์ฟที่โล่งกว้าง สามารถควบคุมแสงสว่างรบกวนได้ทั่วทั้งบริเวณ มีความมืดอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมสังเกตกลุ่มดาว ดาวเคราะห์ กระจุกดาว และกิจกรรมถ่ายภาพเบื้องต้นทางดาราศาสตร์ ห่างจากเมืองเชียงใหม่เพียง 20 กิโลเมตร

ภาพจาก : narit.or.th          ทั้งนี้ สถานที่ที่ขึ้นทะเบียนแต่ละประเภทมีความมืดของท้องฟ้าที่เหมาะสม มีการบริหารจัดการแสงสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากแสงรบกวน มีพื้นที่เปิดโล่งสังเกตท้องฟ้าได้โดยรอบ มองเห็นดาวเหนือและวัตถุท้องฟ้าเด่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า มีบุคลากรในพื้นที่ที่สามารถให้ความรู้ทางดาราศาสตร์เบื้องต้นแก่นักท่องเที่ยวได้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แก่ผู้มาใช้บริการ เช่น เส้นทางคมนาคม ห้องน้ำ ที่พัก ร้านอาหาร เป็นต้น ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ darksky.narit.or.th

ภาพจาก : narit.or.thหมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : narit.or.th, เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, darksky.narit.or.th, thai.tourismthailand.org
ขอบคุณภาพจาก :  narit.or.th