10 เคล็ดลับทำงานบ้านในวันธรรมดา ช่วยแบ่งเบาภาระและเพิ่มเวลาพักผ่อนในวันหยุด
10 เคล็ดลับเปลี่ยนนิสัยมาทำงานบ้านหรือทำความสะอาดบ้านในวันธรรมดา จนช่วยลดภาระและเพิ่มเวลาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้มากขึ้น
คนส่วนใหญ่มักจะหลีกเลี่ยงการทำงานบ้านในวันจันทร์-ศุกร์ แล้วรอทำความสะอาดในวันเสาร์-อาทิตย์ทีเดียว จนทำให้ร่างกายไม่ได้หยุด ไม่ได้พักผ่อน และไม่ได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้ว เราสามารถทยอยทำงานบ้านต่าง ๆ ไปได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องสะสมหรือหมักหมมไว้ในวันเดียว ฉะนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเคล็ดลับเปลี่ยนนิสัย ช่วยให้ทำงานบ้านอย่างชาญฉลาด ใช้เวลาในวันปกติอย่างคุ้มค่าจนมีเวลาว่างในวันหยุดมากขึ้นมาฝากกันค่ะ
1. เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการทำงานบ้าน
หากอยากให้วันหยุดเป็นวันแห่งการพักผ่อนมากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเลิกคิดว่าวันเสาร์-อาทิตย์เป็นวันสำหรับการทำงานบ้านก่อน เพราะความจริงแล้วงานบ้านสามารถทยอยทำได้เรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ ไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดหรือวันว่างทีเดียว และเมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ก็ให้จัดระเบียบการทำงานบ้านใหม่ วางแผนให้เหมาะสมว่าอันไหนควรทำเมื่อไหร่ ใช้เวลามาก-น้อยแค่ไหน โดยกำหนดให้ครอบคลุมครบตั้งแต่วันจันทร์-วันอาทิตย์ พร้อมทั้งพยายามหากิจกรรมสนุก ๆ ผ่อนคลาย ๆ เอาไว้ทำในวันหยุดด้วย เท่านี้ก็จะช่วยให้วันเสาร์-อาทิตย์แฮปปี้มากขึ้น มีภาระน้อยลง ไม่ต้องจมอยู่กับงานบ้านอีกต่อไปแล้วล่ะ
2. วางแผนกิจวัตรประจำวันล่วงหน้า
สืบเนื่องต่อจากข้อที่แล้ว เราต้องวางแผนชีวิตและสิ่งที่ต้องทำล่วงหน้าแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งระบุลำดับความสำคัญและระบุเวลาลงมือให้ชัดเจน เสร็จแล้วก็ใส่ไปในปฏิทินและพยายามทำตามอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญในแต่ละช่วง แต่ละวัน อย่าอัดแน่นมากเกิน ควรกำหนดให้มีเวลาว่างเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่อาจคาดเดาด้วย เพราะถ้าหากตารางเต็มเอี๊ยดแล้ว จะทำให้เราต้องเลื่อนงานใดงานหนึ่งไปทำในวันหยุดจนไม่ได้พักแทนได้ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำเสริมอีกว่า ควรจัดตารางวันศุกร์ให้ว่างไว้จะดีที่สุด เพื่อช่วยเป็นสัญญาณเตือนใจว่า วันหยุดหรือวันพักผ่อนกำลังจะมาถึงแล้ว
3. แบ่งเวลาทำความสะอาดวันละ 20 นาที
รู้ไหมยคะว่าการแบ่งเวลาในวันปกติมาทำความสะอาดสัก 10-20 นาที สามารถทำให้งานบ้านหนัก ๆ ในวันเสาร์-อาทิตย์ลดลง เพิ่มเวลาสำหรับการพักผ่อนชิล ๆ ขึ้นได้มากโขเลยทีเดียว โดยเราอาจจะจัดตารางแบ่งเป็นวันละห้อง หรือวันละงานก็ได้ เช่น วันจันทร์ทำห้องนอน วันอังคารทำห้องน้ำ หรือไม่ก็วันจันทร์เปลี่ยนผ้าปูที่นอน วันอังคารเช็ดกระจก เท่านี้ก็ช่วยให้ทุกคนรับมือกับงานบ้านได้อย่างเป็นระบบระเบียบขึ้นแล้ว อ้อ ทว่าระยะเวลา 20 นาทีที่ว่านี้ต้องไม่รวมกับงานประจำเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน เช็ดเคาน์เตอร์ หรืออะไรทำนองนี้นะคะ ควรแยกออกจากกันให้ชัดเจน แล้วแบ่งเวลาให้เหมาะสม จะได้ช่วยให้แต่ละวันไม่หนักเกินไปนั่นเอง
4. จัดลำดับความสำคัญให้ดี
แน่นอนว่าการจัดลำดับความสำคัญเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าและเต็มที่ โดยสำหรับคนที่อยากให้วันหยุดเป็นวันหยุดมากขึ้น ให้ลองนึกถึงสิ่งที่อยากทำและนึกถึงงานบ้านที่ต้องทำพร้อมกัน จากนั้นก็ไล่ลำดับความสำคัญลงมา พิจารณาให้สมดุลและเหมาะสม จะทำงานบ้านก่อน หรือพักผ่อนก่อนก็ได้ จากนั้นก็ลงมือทำตามอย่างเคร่งครัด แล้วจะพบว่าในวัน ๆ หนึ่งเราสามารถทำอะไรได้มากมายเลยล่ะ
5. ใช้เวลาจากการทำงานที่บ้านให้คุ้มค่า
จากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้หลายบริษัทมีนโยบาย Work From Home บางแห่งอาจจะทั้งสัปดาห์ บางแห่งอาจจะแค่บางวัน ฉะนั้นเราจึงสามารถนำเวลาที่ไม่ได้ใช้ไปกับการเดินทาง มาเปลี่ยนให้เกิดประโยชน์ด้วยการทำงานบ้านได้ ตัวอย่างเช่น วันที่ Work From Home ตอนเช้าอาจจะตื่นมาซักผ้าไว้ก่อน แล้วให้คนในบ้านช่วยตาก ไม่ก็มาทำช่วงพักเบรก จากนั้นตอนเย็นก็เก็บให้เรียบร้อย หรือไม่อาจจะใช้เวลาตอนเย็นของวันที่ Work From Home ไปกับการช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านแทนวันหยุดก็ได้ เคล็ดลับนี้จะช่วยให้เรามีเวลาว่างในวันเสาร์-อาทิตย์มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้งานบ้านเสร็จโดยไม่เสียงานหลักไป แต่พยายามอย่าหักโหมหรือทำเยอะเกินเหตุ เพราะในแต่ละวันร่างกายควรได้รับการพักผ่อนอย่างเหมาะสม
6. ให้สมาชิกในบ้านช่วยแบ่งเบาภาระ
เพราะงานบ้านเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หากอยากให้เสร็จไวและเหนื่อยน้อยลง เพียงแค่แบ่งงานกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้งานเสร็จได้อย่างแฮปปี้และมีประสิทธิภาพ จนมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเพียบเลยล่ะ
7. สั่งของออนไลน์แทนไปที่ร้าน
ทุกวันนี้บริการเดลิเวอรี่เข้าถึงทุกรูปแบบ ทั้งอาหาร ของสด ของชำ และของใช้ในบ้าน ดังนั้นใครที่ไม่อยากเสียเวลาเดินทางออกไปเจอกับรถติดข้างนอก ไม่อยากเบียดเสียดกับผู้คนที่มุ่งหน้าไปช้อปปิ้งในวันหยุด และไม่ซีเรียสเรื่องการเลือกซื้อข้าวของกับมือ ขอแนะนำให้สั่งของออนไลน์แทน รับรองช่วยประหยัดเวลาลงไปได้มาก แถมส่วนใหญ่การสั่งของแบบนี้ส่งฟรี และบางทีมีส่วนลดพิเศษให้อีกด้วย
8. สร้างกิจวัตรในการซักผ้า
ในบรรดางานบ้านทั้งหมด งานเกี่ยวกับผ้าดูจะเยอะและหลากหลายขั้นตอนสุด เพราะมีทั้งซักผ้า อบผ้า ตากผ้า พับผ้า และรีดผ้า ฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ โดยมีเคล็ดลับง่าย ๆ คือ เลือกวันที่จะทำความสะอาดผ้าในแต่ละสัปดาห์มาเลย อาจจะแค่วันเดียวหรือสักสองวันก็ได้ อาจจะเป็นกลางสัปดาห์วันหนึ่ง ปลายสัปดาห์วันหนึ่ง จากนั้นก็ทำตามที่กำหนดไว้ให้เป็นนิสัย วิธีนี้จะช่วยสร้างความเคยชิน ลดปัญหาผ้าหมักหมม แบ่งเบาภาระที่ต้องรับผิดชอบ และแยกงานนี้ออกจากงานอื่นจนทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมากเกินไปนั่นเอง
9. พึ่งกลยุทธ์ถังเก็บของจำเป็น
ใครต้องคอยเคลียร์ห้องรก ๆ ในช่วงวันหยุดเป็นประจำ ขอแนะนำให้นำกลยุทธ์ “ถังคัดของ” ของ Taryn Williford จากเว็บไซต์ Apartment Therapy มาใช้ โดยมีขั้นตอน คือ นำถังหรือกล่องเปล่าไปตั้งไว้ในห้องต่าง ๆ จากนั้นเก็บสิ่งของที่รกรุงรัง เกะกะสายตาลงไป แล้วใช้ชีวิตต่อตามปกติ เมื่อไรที่รู้สึกว่าต้องการของชิ้นไหนก็หยิบขึ้นมาใช้ ชิ้นไหนไม่ต้องการก็ไม่ต้องสนใจ วิธีนี้จะทำให้รู้ว่าข้าวของชิ้นไหนจำเป็นในห้องนั้นบ้าง จนช่วยให้เลือกเก็บของได้เหมาะสมกับห้องและการใช้งานมากขึ้น ทำให้บ้านรกน้อยลง ทำความสะอาดง่าย และไม่ต้องคอยเคลียร์ห้องในวันหยุดบ่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ไอเดียนี้ยังช่วยฝึกนิสัยทิ้งของไปในตัว ทำให้ไม่เป็นโรคชอบเก็บ จนทำให้ขยะเกลื่อนบ้านอีกด้วย
10. ยอมรับความไม่เป็นระเบียบบ้าง
ในกรณีที่วันปกติไม่มีเวลาว่าง จำเป็นต้องทำงานบ้านในวันหยุดแทน บางครั้งอาจต้องใช้การปล่อยวางและยอมรับในความไม่เป็นระเบียบบ้าง โดยให้กำหนดเวลาที่จะทำความสะอาด ถ้าไม่พอจะครอบคลุมงานบ้านทั้งหมด ก็ให้เลือกพื้นที่แค่บางส่วน ส่วนไหนยังไม่ได้ทำก็เก็บไว้ทำวันหลัง วิธีนี้จะช่วยให้เราได้พักผ่อนในวันหยุดมากขึ้น ไม่ต้องจมอยู่กับการทำงานบ้านเกินไป ทว่าที่สำคัญ คือ บ้านต้องไม่สกปรกเกินเหตุ และงานบ้านประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ล้างจาน กวาดบ้าน เช็ดโต๊ะ หรือซักผ้า ต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยนะคะ
มาถึงตอนนี้ ถ้าหากใครอยากเปลี่ยนนิสัยในการทำงานบ้านจากวันหยุดเป็นวันปกติ ก็ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก apartmenttherapy และ 1lovepaper
