ฟังอีกมุมของคนบอกเลิก ในมุมมองของ “PUN” ผ่าน “Goodbye” เพลงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และอยากขอโทษ
ในสมการความรักที่ใครหลายคนมักจะมอง และกล่าวโทษคนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกคือคนผิด
แต่ในขณะเดียวกันหลายคนอาจมองข้ามความรู้สึกของคนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกไปว่า
ต้องรวบรวมความกล้ามากเพียงใด ที่จะปฏิเสธความรัก เพื่อให้เกิดความเจ็บปวดกับอีกฝ่ายน้อยที่สุด
เรามาฟังอีกมุมของคนบอกเลิก ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเพลง “Goodbye” ในมุมมองของ “PUN” หรือ “ปัน-สรณวรรธ พิชัยรณรงค์สงคราม”
ซิงเกิลที่ 4 ภายใต้ “ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค ประเทศไทย” ซึ่งความหมายของเพลงเข้าใจได้ง่าย และให้อารมณ์ relate กับชื่อเพลง
จนคนฟังคงสัมผัสได้ถึงการบอกลา ที่มาพร้อมคำบอกเลิก เพลงนี้ “PUN” ตั้งคำถามในเรื่องของความรักเอาไว้ว่า คนเราถ้าหมดใจต่อกันแล้ว
สิ่งแรกที่ควรทำมากที่สุด คือการพูดความรู้สึกกันตรงๆ ยอมรับความจริง เลือกเจ็บแต่จบ
ดีกว่าทำร้ายกันและกันในระยะยาว – นี่คือนิยามของคำถามที่ “PUN” ตั้งใจจะสื่อสารผ่านบทเพลงนี้
เนื้อเพลงในท่อน “และมันไม่ได้ผิดที่เธอ … ที่ยังรู้สึก เป็นเพราะฉันเองที่ … หมดใจไปง่ายๆ”
ถ้าเราลองแกะสมการความหมายแบบเชิงลึกของประโยคนี้ดู หลายคนคงจะคิดเหมือนกันว่าแท้จริงแล้ว
คนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกก็ตกอยู่ในห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เพราะเสียใจไม่ต่างกับคนที่เป็นฝ่ายถูกบอกเลิกเช่นกัน
“Goodbye” คือเพลงที่ “PUN” แต่งเนื้อร้อง และทำนองด้วยตัวเอง เหมือนกับทุกๆ เพลงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น “Therapist, Stay และ เค้าว่า”
ซึ่งเนื้อร้องของเพลง “Goodbye” อาจจะฟังดูเย็นชา ดูใจร้ายเอามากๆ แต่ลึกๆ แล้วแอบแฝงไปด้วยความเห็นอกเห็นใจอยู่ไม่น้อย เพราะปันมีมุมมองในฐานะศิลปินว่า
เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดนี้ลงไปในบทเพลง คนฟังอิน หรือเชื่อกับสิ่งที่เขาสื่อสาร ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างที่เขาตั้งใจเอาไว้
ด้วยเนื้อหาเพลงนี้มีความเรียลมากๆ จนเราอาจจะปฏิเสธความโหดร้ายของเนื้อเพลงไม่ได้
แต่ในทางกลับกันบนโลกของความเป็นจริงความรู้สึกหมดรัก หมดใจ มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกความสัมพันธ์ในสังคมจริงๆ
“Goodbye” ยังได้ “Spatchies” มาทำหน้าที่ Producer มี “TRILOGY” มาคุม Sound Engineer
จนเกิดเป็นท่วงทำนองเพลงที่ใส่เครื่องดนตรีน้อยชิ้นตามที่ปันวางคอนเซ็ปต์เอาไว้ แต่ยังให้พลังความรู้สึกเศร้า หดหู่ กดดัน ในความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก
พาร์ท MV ได้ “หลุยส์-ธชา คงคาเขตร” มาช่วยในเรื่องการกำกับฯ ภาพ ให้คล้ายหนังสั้นประกอบเพลง ที่เล่นกับความรู้สึกคนดูอยู่ไม่น้อย
ซึ่งผู้กำกับวางสตอรี่ให้ปันได้ถ่ายทอดอารมณ์ทางการแสดง ผ่านมุมมองของผู้ชายคนหนึ่งที่ดันเกิดสภาวะผิดปกติ ร่างกายไร้ความรู้สึก
ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน และมีคนรักคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา แต่แล้ววันหนึ่งเขาเริ่มกลับมามีความรู้สึกตอบสนองต่อสิ่งเร้าอีกครั้ง
ก่อนจะค้นพบว่าร่างกายของเขาตอบสนองทุกอย่าง และมีความรู้สึกกับทุกสิ่งรอบตัว ยกเว้นกับคนรักที่เขาไม่รู้สึกอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว
บอกเลยว่าแฟนเพลงจะได้เห็นพัฒนาการในการทำงานอีกด้านของปัน ที่เจ้าตัวทุ่มเท
และตั้งใจถ่ายทอดออกมาอย่างดีที่สุดลงในเพลง “Goodbye” รับรองว่าแฟนเพลงจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน