พาใจไปพักร้อนกับ 10 ทะเลไทยน่าเที่ยว ไม่ว่าใครก็หลงรัก
เที่ยวหน้าร้อนที่ไหนดี ใครยังไม่รู้คำตอบเรามีที่เที่ยวทะเลไทยสวย ๆ บรรยากาศดี เหมาะสำหรับหน้าร้อนนี้มาแนะนำกัน
ทะเลไทยสวยไม่แพ้ที่ไหนในโลก ดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงไปนัก ภาพของน้ำทะเลสีมรกต หาดทรายสีขาวละเอียดงดงามเกินคำบรรยายเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่ทะเลไทยจะติดเป็นหนึ่งที่เที่ยวทะเลในใจของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ วันนี้เราเลยรวบรวม 10 เกาะสวรรค์ของทะเลไทยที่ว่ากันว่ากิตติศัพท์ความงามติดอันดับโลก เผื่อเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวหน้าร้อนที่ไหนดีได้เข้ามาดูกัน ว่าแต่มีที่ไหนบ้าง มาดูเลย
ที่เที่ยวทะเลไทย
1. เกาะตะปู จังหวัดพังงา
อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นเกาะท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากหนังเรื่องเจมส์ บอนด์ ซึ่งเดินทางมาถ่ายทำที่เกาะตะปูในปี พ.ศ. 2517 ทำให้เกาะตะปูได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า James Bond Island หรือ “เกาะเจมส์ บอนด์” โดดเด่นด้วยลักษณะเขาที่มีรูปร่างคล้ายตะปู ที่เกิดจากน้ำทะเลที่กัดเซาะเป็นเวลานาน จึงสึกกร่อนและมีขนาดเล็กกว่าส่วนบน เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการเข้าชม ด้วยเพราะเขาตะปูอาจเสี่ยงต่อการล้มลงมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้เสมอ
เที่ยวหน้าร้อนที่ไหนดี ใครยังไม่รู้คำตอบเรามีที่เที่ยวทะเลไทยสวย ๆ บรรยากาศดี เหมาะสำหรับหน้าร้อนนี้มาแนะนำกัน
ทะเลไทยสวยไม่แพ้ที่ไหนในโลก ดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่ไม่เกินจริงไปนัก ภาพของน้ำทะเลสีมรกต หาดทรายสีขาวละเอียดงดงามเกินคำบรรยายเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่ทะเลไทยจะติดเป็นหนึ่งที่เที่ยวทะเลในใจของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ วันนี้เราเลยรวบรวม 10 เกาะสวรรค์ของทะเลไทยที่ว่ากันว่ากิตติศัพท์ความงามติดอันดับโลก เผื่อเพื่อน ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวหน้าร้อนที่ไหนดีได้เข้ามาดูกัน ว่าแต่มีที่ไหนบ้าง มาดูเลย
ที่เที่ยวทะเลไทย
1. เกาะตะปู จังหวัดพังงา
อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นเกาะท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากหนังเรื่องเจมส์ บอนด์ ซึ่งเดินทางมาถ่ายทำที่เกาะตะปูในปี พ.ศ. 2517 ทำให้เกาะตะปูได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า James Bond Island หรือ “เกาะเจมส์ บอนด์” โดดเด่นด้วยลักษณะเขาที่มีรูปร่างคล้ายตะปู ที่เกิดจากน้ำทะเลที่กัดเซาะเป็นเวลานาน จึงสึกกร่อนและมีขนาดเล็กกว่าส่วนบน เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการเข้าชม ด้วยเพราะเขาตะปูอาจเสี่ยงต่อการล้มลงมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งได้เสมอ
2. อ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เป็นที่รู้จักจากหนังเรื่อง The Beach เพราะมีธรรมชาติที่สวยงาม ลักษณะเด่นอยู่ที่ชายหาดเป็นเวิ้ง มีหาดทรายกว้างและขาวสะอาด ซึ่งพื้นของหาดทรายเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากซากของปะการังที่แหลกละเอียดเป็นผุยผง และถูกคลื่นซัดขึ้นมากองทับถมเป็นแรมปี อันเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรตามธรรมชาติ และเนื่องด้วยปัญหาสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการประกาศปิดการท่องเที่ยวหาดทรายและชายฝั่งบริเวณอ่าวมาหยาอย่างไม่มีกำหนด เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ทั้งนี้ ยังสามารถชมความงามของอ่าวมาหยาได้จากบนเรือ โดยเจ้าหน้าที่ทำทุ่นกั้นไว้ไม่ห่างจากชายหาดมากนัก จึงยังคงได้เห็นอ่าวมาหยาในมุมกว้าง เพียงแต่ไม่สามารถขึ้นไปบนชายหาดหรือดำน้ำบริเวณใกล้ชายฝั่งเท่านั้น
3. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลางทะเลอันดามันในเขตจังหวัดสตูล ด้วยลักษณะเกาะที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติได้ทั่วเกาะ จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะคือความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง เงียบสงบ และน้ำทะเลสีเขียวมรกต เหล่านี้เป็นภาพความงดงามที่ไม่ว่าใครที่เดินทางมาเกาะหลีเป๊ะต้องพบเจอทุกคนไป
ภาพจาก surassawadee / shutterstock.com
4. เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
เกาะพีพี หรือหมู่เกาะพีพี ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล โดยเกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี ซึ่งมีทั้งที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หาดทรายขาวสะอาด น่าเล่นน้ำและดูปะการังเป็นที่สุด โดยช่วงที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวเกาะพีพีอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งคุณสามารถเที่ยวเกาะพีพีได้แทบทุกจุดรอบเกาะเลยทีเดียว เกาะพีพีจึงเป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่หลงรักทะเลอย่างแท้จริง
5. เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
เกาะลันตา เกาะทางฝั่งทะเลอันดามันในจังหวัดกระบี่ มีชายหาดเรียงรายเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันถึง 13 หาด เกาะลันตาใหญ่ยังมีจุดเด่นอยู่ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ตั้งอยู่ที่แหลมโตนด ตรงปลายเกาะ เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ด้วยผืนป่าดงดิบ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และที่โดดเด่นที่สุดคือประภาคารสีขาว ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเกาะลันตา ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูปตรงมุมนี้ด้วยกันทั้งนั้น
6. เกาะมุก จังหวัดตรัง
เกาะมุก ตั้งอยู่ในท้องทะเลจังหวัดตรัง จุดเด่นของเกาะมุกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ “ถ้ำมรกต” ที่มีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ถือเป็นอัญมณีแห่งท้องทะเลตรัง และเมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหาดทรายขาวสะอาด มีฟ้าสีครามเป็นหลังคา น้ำทะเลใส ล้อมรอบด้วยหน้าผา และต้นไม้ บรรยากาศดี เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนชมทัศนียภาพอย่างยิ่ง
7. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเต่า อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเป็นแหล่งดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากออสเตรเลีย จนได้รับการยกย่องให้เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ เพียงแค่ลองไปสัมผัสกับเกาะเต่า ไม่ว่าจะเป็นโลกใต้ทะเลหรือชายหาดของเกาะเต่า รับรองว่าจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืมจนต้องกลับมาอีกครั้ง
8. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย ประกอบด้วยเกาะและหาดทรายสวยงามต่าง ๆ มากมาย เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน เป็นต้น รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อย่างอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เจดีย์แหลมสอ และน้ำตกหินลาด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการท่องเที่ยวบนเกาะนอกเหนือจากท้องทะเลที่สวยงาม
9. เกาะช้าง จังหวัดตราด
เกาะช้าง อยู่ในพื้นที่ท้องทะเลจังหวัดตราด เป็นเกาะที่ประกอบด้วยชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่สวยงามอยู่รายล้อมเกาะช้าง ซึ่งหาดที่ได้รับความนิยมของเกาะ ได้แก่ หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ หาดบางเบ้า โลนลี่ บีช, อ่าวใบลาน อ่าวคลองสน เป็นต้น รวมถึงยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตก แหล่งท่องเที่ยวทางเลือกสำหรับคนที่ชอบทั้งทะเล ป่าเขา และน้ำตก ไปเกาะช้างที่เดียวเที่ยวคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
10. เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
เกาะตะรุเตา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ด้วยสาเหตุที่ตัวเกาะตะรุเตามีขนาดใหญ่ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวเลือกพักค้างแรมบนเกาะแห่งนี้เป็นจำนวนน้อย จึงทำให้บรรยากาศโดยรวมของเกาะตะรุเตาค่อนข้างเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในเสน่ห์ของความวิเวกวังเวงเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งหมดนี้เป็นความงามของท้องทะเลไทยที่ได้รับการยกย่องทั้งจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ว่ายังคงมีธรรมชาติที่สวยสดงดงาม จะน่าเสียดายกว่านี้ถ้าคนไทยต่างเพิกเฉย และเลือกที่จะละเลยไม่ดูแลรักษาความงามเหล่านั้นเอาไว้ ใครจะไปรู้ว่าวันข้างหน้าเราอาจไม่มีท้องทะเลสวย ๆ แบบนี้ให้ได้เที่ยวอีกต่อไปก็ได้นะ ดังนั้นแล้วมีของดีอยู่กับตัวต้องรีบรักษา
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง