Jamie Miller ปล่อยซิงเกิลใหม่ “In The Cards” เพลงบัลลาดที่เจ็บปวดที่สุดที่เคยทำมา!
amie Miller ปล่อยซิงเกิลใหม่ “In The Cards” อีกหนึ่งเพลงบัลลาดที่น่าทึ่งซึ่งขับเคลื่อนโดยเสียงร้องอันทรงพลังของ Jamie และโทนเสียงที่คร่ำครวญสุดบาดลึก
“In The Cards เป็นเพลงที่อกหักที่สุดเท่าที่ผมเคยเขียนมา เมื่อไรก็ตามที่ต้องเริ่มต้นใหม่ ความเจ็บปวดจากสถานการณ์ก่อนๆ ก็จะยังคงอยู่ ผมปล่อยวางและทิ้งความเจ็บปวด แล้วต่อยอดความรู้สึกเหล่านั้นลงไปใน “In The Cards” มันเหลือเชื่อที่ผลลัพท์ดันออกมาดี และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำกับเพลง In The Cards!” – Jamie กล่าว
Jamie Miller จะเริ่มทัวร์แรกในยุโรป สหราชอาณาจักร และอเมริกาเหนือในฤดูใบไม้ผลินี้โดยได้รับการสนับสนุนจากนักร้องนักแต่งเพลงอย่าง RIKA และ Michael Gerow ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม และสิ้นสุดในวันที่ 15 พฤษภาคมในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://jamiemillermusic.com/
Jamie Miller เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ในเวลส์ชนชั้นแรงงาน และก้าวขึ้นสู่ความโดดเด่นในฐานะนักร้อง-นักแต่งเพลงในปี 2017 นับตั้งแต่นั้นมา เขาประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยการสตรีมมากกว่า 1 พันล้านครั้งทั่วโลก และได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางจากทั้ง People, Billboard, The Huffington Post รวมถึงศิลปินต่างๆ เช่น เช่น Kelly Clarkson, P!nk, Sam Smith, Jennifer Hudson, BLACKPINK และอีกมากมาย
จนถึงวันนี้ Jamie Miller มีผลงานอีพีสองชุด ได้แก่ Broken Memories (2022), The Things I Left Unsaid (2023) และซิงเกิลอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงซิงเกิลฮิตของเขา “Here’s Your Perfect” (2021) ซึ่งทำรายได้มากกว่า สตรีม 600M ทั่วโลก
ในเดือนตุลาคม ปี 2023 Jamie ได้เปิดตัว EP The Things I Left Unsaid ด้วยเพลง “Maybe Next Time” ซึ่งปัจจุบันมียอดสตรีมมากกว่า 60 ล้านครั้งทั่วโลกบนแพลตฟอร์มทั้งเวอร์ชันดั้งเดิมและเวอร์ชันทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Jamie ยังได้ร่วมงานกับ Young K แห่งวงร็อคเกาหลีใต้ DAY6 และ Moira Dela Torre ผู้ทรงอิทธิพลชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียงท่อนต้นฉบับในเพลงเด่นของพวกเขา
หลังจากความสำเร็จของ “Maybe Next Time” Jamie ได้เปิดตัว “No Matter What” และ “Empty Room” ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นที่สนใจมากขึ้นด้วย EP The Things I Left Unsaid ที่มียอดสตรีมทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านครั้ง และได้รับการยอมรับจากเพลย์ลิสต์ที่โดดเด่น เช่น Pop Rising และ Sad Hour ของ Spotify และ Pop and Sad Room ใหม่ของ Apple Music